สำหรับหนุ่มสาวคนไหนที่ประสบปัญหาเรื่องรอยแดงจากการระคายเคืองหรืออาการแพ้ หรือบางคนก็มีอาการรุนแรง อาจจะเกิดรอยไหม้ หากเป็นบริเวณใบหน้าก็จะสร้างความกังวลใจให้เราอย่างมาก และหากดูแลรักษาไม่ดีก็อาจทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าเพิ่มขึ้นได้ เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมีวิธีแก้รอยแดงจากการระคายเคืองแพ้หรือจากรอยไหม้มาฝาก
1.เลิกใช้ครีมที่ทำให้เราแพ้ และอย่าลืมด้วยว่าครีมนั้นมีส่วนผสมอะไรบ้าง และให้จดส่วนผสมเอาไว้ เพื่อว่าเราแพ้สารอะไรในครีมบ้าง เวลาที่เราต้องการจะใช้ครีมตัวใหม่ๆ ก็ให้ดูว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง ถ้ามีส่วนผสมเหมือนครีมตัวเดิมก็ควรจะหลีกเลี่ยงจะดีที่สุด
2.เมื่อเราเลิกใช้ครีมที่แพ้แล้ว ก็ต้องหยุดใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวทุกชนิดด้วย เพราะว่า เราควรจะรักษารอยแดงหรือรอยไหม้ให้หายก่อน จึงค่อยมาบำรุงหน้าในภายหลัง เพราะว่า การที่เราใช้ครีมบำรุงผิวหรือเครื่องสำอางอยู่ อาจมีสารบางอย่างในครีมหรือเครื่องสำอาง ทำให้หน้าของเราเกิดการระคายเคืองและเกิดอาการแพ้มากขึ้นกว่าเดิมก็ได้
3.หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยโฟมล้างหน้าหรือสบู่ เราควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่ามากกว่า เพื่อช่วยลดการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ
4.หลังจากนั้นก็ควรจะต้องหาสมุนไพรมาบรรเทาอาการบวมแดงและรอยแดง ไม่ว่าจะเป็นว่านหางจระเข้ หรืออาจจะใช้น้ำแข็งประคบก็ได้ ก็จะช่วยลดอาการบวมแดงหรือรอยแดงลงได้
5.หากอาการของคุณนั้นไม่ดีขึ้น ยังคงมีรอยแดงหรือว่ารอยไหม้อยู่ล่ะก็ อาจจะเกิดการอักเสบอย่างรุนแรงใต้ชั้นผิว แบบนี้คุณควรที่จะไปพบแพทย์มากกว่า เพื่อแพทย์จะได้ทำการตรวจวินิจฉัยต่อไปว่า ควรจะรักษาคุณอย่างไร และที่สำคัญคุณนั้นก็ควรที่จะต้องทำตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัดด้วย เพื่อการรักษารอยแดงที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพของคุณเอง
6.เมื่อรักษาหายแล้วก็ควรจะต้องหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดรอยแดงหรือรอยไหม้กับผิวของคุณ โดยเฉพาะสารเคมีที่อยู่ในครีมต่างๆที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือว่าปัจจัยเสี่ยงในด้านอื่นๆที่ทำให้ผิวของคุณเกิดการระคายเคืองจนอาจเกิดรอยแดงรอยไหม้ อย่างเช่นการออกแดดจัดแล้วไม่ป้องกันแดด การเปลี่ยนครีมหรือเครื่องสำอางใหม่โดยที่คุณไม่ทดลองก่อนใช้ เป็นต้น
เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากหน้ามีรอยแดงหน้าไหม้เพราะแพ้สารก็ควรจะต้องทดลองก่อนใช้ทุกครั้ง อย่างน้อยก็ทิ้งไว้ข้ามคืนเลย หากไม่มีอาการแพ้หรือระคายเคืองก็สามารถใช้ได้
ทั้งหมดนี้คือการรักษารอยแดงและรอยไหม้ที่เกิดจากการระคายเคืองจากแพ้ต่างๆ ซึ่งหากเป็นมากก็ต้องปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาต่อไปแต่ว่าทางที่ดีที่สุด ก็คือควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดรอยแดงหรือว่ารอยไหม้ดีกว่า เพราะว่ามันคงไม่คุ้มเท่าไร ถ้าหากรักษาแล้วยังมีรอยแผลเป็นบนใบหน้าเพราะฉะนั้นก็ควรป้องกันไว้จะดีกว่ามานั่งแก้ในภายหลัง