เมื่อพูดถึงเรื่องสุขภาพแล้วคนส่วนใหญ่ยอมรับว่าสุขภาพดีไม่มีโรคภัยย่อมเป็นที่ปรารถนาของทุก ๆ คน แต่ก็มีเหมือนกันที่ทำให้คนใกล้ชิดอ่อนระอาใจได้ หากคนในครอบครัวไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพ ซึ่งการดูแลสุขภาพนั้นก็มิใช่ว่าทำวันเดียวแล้วจะมีสุขภาพดีไปตลอดได้ จำเป็นต้องใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายกันทุกวัน ร่างกายจึงจะแข็งแรงมีอายุยืนยาว วันนี้เรามีคำแนะนำดี ๆ สำหรับครอบครัวที่กำลังกลุ้มใจที่คนในครอบครัวไม่ค่อยดูแลสุขภาพ อาการน่าเป็นห่วง เรามีวิธีปรับทัศนคติให้คนในครอบครัวหันมาดูแลสุขภาพในระยะยาว มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย
1.ดูแลสุขภาพจะได้อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ
ทุกคนต่างมีคนที่เรารักและรักเราด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครอยากเห็นคนรักตายไปก่อนอันเนื่องด้วยสุขภาพทรุดโทรม มีแต่อยากให้ร่างกายของเขาแข็งแรง ความห่วงใยของคนอื่นจะไม่เกิดผลถ้าเราเจ้าของร่างกายไม่ได้ใส่ใจดูแล ยังคงดื่มเหล้า สูบบุหรี่หรือกินอาหารตามใจปากอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เพราะสามารถทำนายโรคที่จะเกิดได้เลย แต่ถ้าวันนี้เราเห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่เราก็จะหาทางละเลิกสิ่งที่เป็นโทษต่อร่างกายและหันมาดูแลตนเองเพื่อจะอยู่กับคนรักไปนาน ๆ
2.ป้องกันดีกว่ารักษา
มีคำแนะนำออกมามากมายเรื่องการป้องกันไม่ให้เกิดโรค เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิต โรคกระดูกและอื่น ๆ ซึ่งถ้าเราอยู่ในวัยที่มีความเสี่ยงและดูแลตัวเองไม่ดี กินแต่อาหารขยะ พักผ่อนน้อย ดื่มน้ำน้อย กินอาหารหวานจัด เค็มจัด โรคต่าง ๆ ย่อมถามหา เมื่อเป็นแล้วต้องไปหาหมอรักษากันเป็นเดือนเป็นปีต้องกินยา แต่ถ้าเราป้องกันไว้ก่อนไม่ให้เกิดโรค ย่อมเป็นหนทางของการมีสุขภาพดีแบบยั่งยืน เพียงแค่เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การใช้ชีวิต สุขภาพของเราก็จะแข็งแรงไม่ต้องกินยาใด ๆ ไปตลอดชีวิต
3.ถ้าเราไม่ต้องการก็ไม่มีใครยัดเยียดความมีสุขภาพดีให้เราได้
จริงอยู่มีสิ่งดีอยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางโภชนาการ คำแนะนำจากคุณหมอ การบอกกล่าวจากคนใกล้ตัวในเรื่องหนทางที่ทำให้สุขภาพดี แต่ถ้าเราเมินเฉยเราไม่ต้องการใครก็ไม่สามารถยัดเยียดเราได้ สุขภาพของเราก็จะค่อย ๆ ปรากฎให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นอ้วนเกินไป เดินเหินก็เหนื่อยหอบ นอนกรน ปวดหัวบ่อย ๆ ความดันสูง เป็นต้น ซึ่งถ้าเราไม่ตระหนักถึงความมีสุขภาพดีดีต่อชีวิตของเราและคนที่เรารักอย่างไร เราจะไม่มีแรงกระตุ้นให้ดูแลสุขภาพ นับจากนี้ลองไตร่ตรองเรื่องของสุขภาพอย่างจริงจัง มองดูตัวอย่างของคนที่ล้มลงเนื่องจากเส้นโลหิตในสมองแตก ไม่กินยาตามแพทย์สั่งแล้วต้องผ่าตัดสมองทำให้ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมจะไปไหนก็ไม่ได้ต้องมีคนคอยดูแล เมื่อมองเห็นภาพเหล่านี้ ณ ปัจจุบันถ้าเราเริ่มต้นก็ยังไม่สายจนเกินไปที่จะมีสุขภาพดีไปตลอดวันเวลาของชีวิตได้
เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าแม้มีเงินทองมากมายเพียงใดก็ไม่อาจซื้อสุขภาพดี ได้ สุขภาพดีอยากได้ต้องทำเอง การดูแลสุขภาพตั้งแต่บัดนี้ย่อมดีกว่าการมาเสียค่าใช้จ่ายเสียเวลาในการรักษา ทำให้ต้องนอนอยู่แต่บนเตียง ไม่สามารถที่จะออกไปชมโลกภายนอกได้ การหันมาดูแลตนเองเสียเดี๋ยวนี้คิดเสียว่าร่างกายสำคัญที่สุด ถ้าสุขภาพกายดีสุขภาพใจก็ดีตามไปด้วยความสุขจากการไม่มีโรคก็จะบังเกิดแก่ผู้ที่ดูแลตัวเองทุกคน