อายุที่เพิ่มขึ้น ผิวที่เคยเปล่งปลั่ง เรียบเนียนแลดูกระชับ กลับไม่เป็นอย่างเคย สาวๆหลายคนต่างพากันโบกครีมสารพัดลงบนผิวหน้า หวังว่าเมื่อตื่นตอนเช้าจะพบกับผิวที่ดูสดใส แต่ทำไมถึงไม่เป็นเช่นนั้น จริงอยู่ว่าเซลล์ผิวสามารถผลัดเองได้เองตามธรรมชาติ แต่ผิวที่เผชิญกับมลภาวะต่างๆในแต่ละวัน บางครั้งอาจไม่พอ วิธีที่ง่ายอย่างการสครับผิวจึงเป็นที่นิยม แต่ก็มีข้อควรระวังไม่เช่นนั้นอาจกลายเป็นการทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว แล้วมีอะไรบางที่ควรรู้
การผลัดเซลล์ผิวคืออะไร
เป็นการเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากชั้นบนสุดของผิวหนัง ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น และทำให้สกินแคร์ที่ใช้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่อายุมากขึ้นการทำงานของเซลล์ช้าลง ปกติวงจรการผลัดเซลล์ผิวใช้เวลา 21-28 วัน โดยเฉลี่ย แม้แต่สาวๆอย่าเพิ่งชะล้าใจไป เพราะต้องเจอกับรังสี UV การพักผ่อนน้อย ผิวขาดน้ำ ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน รูขุมขนกว้างขึ้น
กระบวนการผลัดเซลล์ผิวนี้แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท จะเลือกวิธีใดขึ้นอยู่กับความสะดวก และสภาพผิวหน้า
- ทางเคมี เช่น ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มี salicylic acid, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มี glycolic acid
- ทางกายภาพ เช่น การใช้แปรงขัดหน้า การสครับผิวหน้า กรอผิวด้วยอัญมณี
ผิวแบบไหนควรหลีกเลี่ยงการสครับ
การผลัดเซลล์ผิวทางกายภาพอย่างการใช้สครับขัดผิวนั้น มีข้อเสียตรงที่ไม่สามารถผลัดได้ทั่วถึง และอาจเกิดการระคายเคืองได้ แม้วัตถุดิบที่ใช้จะทำมาจากธรรมชาติก็ตาม เพราะเม็ดสครับจากธรรมชาติ เช่น น้ำตาล เกลือ กากกาแฟ มีขนาดใหญ่ และมีเหลี่ยมมุม รวมถึงการขัดหน้าที่แรงเกินไปทำให้เกิดการเสียดสี วิธีนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวไวต่อการกระตุ้น ผิวระคายเคืองง่าย และผิวแห้งลอกเป็นขุย
เลือกใช้สครับอย่างไร ให้เหมาะกับสภาพผิว
- ผิวธรรมดา : สครับเนื้อละเอียด อ่อนโยนต่อผิว และบำรุงผิวไปในตัว เช่น รำข้าว ช่วยในเรื่องริ้วรอย ผิวแลดูอ่อนเยาว์ น้ำแร่ชาเขียว ชาขาว
- ผิวแห้ง : สครับแบบเนื้อครีม เม็ดสครับเป็นธัญพืชแบบละเอียดเป็นตัวเลือกที่ดี และมีน้ำมันผสมอยู่ เช่น Jojoba oil, Argan oil พร้อมส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื่น เช่น ว่านหางจระเข้, สารสกัดจากชาเขียว
- ผิวมัน : เนื้อสครับขนาดเล็ก ที่ช่วยทำความสะอาดรูขุมขนและขจัดสิ่งสกปรก ทำความสะอาดล้ำลึก แต่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื่นจนเกินไป เช่น สารสกัดจากดอกแมกโนเลีย ที่มีความอ่อนโยนให้ผิวรู้สึกเนียน เกลือ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
ความถี่ในการใช้สครับขัดผิว
- สำหรับผิวมัน สามารถทำได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
- สำหรับผิวธรรมดาและผิวผสม สัปดาห์ละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว
หลีกเลี่ยงการสครับบริเวณที่มีสิว รอยแดง ผิวไหม้จากแดด เพราะจะทำให้ผิวอักเสบและระคายเคืองมากขึ้น ทุกครั้งหลังจากใช้สครับขัดผิวหน้า อย่าลืมตบท้ายด้วยการทาครีมบำรุง เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นของผิว
การเลือกใช้สครับขัดผิวหน้า เป็นอีกวิธีที่ง่าย และสะดวก สามารถทำได้เองที่บ้าน มีให้เลือกหลากหลายตามความชื่นชอบของแต่ละคน แม้จะมีข้อดีแต่หากใช้บ่อยเกินไปหรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพ จากหน้าสวยอาจกลายเป็นหน้าพังได้โดยไม่รู้ตัว