7 สิ่งที่ต้องรู้ไว้ ก่อนสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง
1.สินค้า
ก่อนอื่นต้องรู้จักสินค้าของตัวเองให้ดีเสียก่อนว่ามีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง
ข้อดี
อย่างในสินค้า ที่เหมือนๆ กัน ยกตัวอย่างมือถือ รุ่นนี้เน้นออกแบบเครื่องสวย รุ่นนี้กล้องสวย เพื่อทำให้โดดเด่นและมีความแตกต่างมากกว่าเจ้าอื่น หรือเจ้าอื่นไม่มีแบบของเรา ยกข้อดีออกมาให้หมดเพื่อดึงดูดความสนใจ และให้คนที่จะซื้อตัดสินใจในการซื้อง่ายขึ้น
ข้อเสีย
สินค้า แต่ละตัวมีกระแสตลาดอยู่ในตัวมันเอง อย่างถ้าคุณทำจอขาวดำมาขายในราคาถูกมาก จอแบนขาวดำ 24 นิ้ว ราคาไม่เกิน 2,000 บาท ราคาอาจเป็นจุดเด่น แต่ด้วยความที่มันเป็นสินค้าที่มีข้อเสียชนิดว่าลูกค้ายี้ หรือไม่ต้องการ เพราะสมัยนี้ใช้ทีวีสีกันหมดแล้ว มันก็ขายไม่ออกหรอกคะ
2.คู่แข่ง
ตรวจสอบคู่แข่ง หากคู่แข่งแกร่งเกินไป ยากที่จะชนะได้ ก็ไม่ควรทำ ตัวอย่างถ้าเราซื้อน้ำเปล่ามาขาย แม้ขายถูกกว่า 7-11 แต่คนส่วนใหญ่รู้จักแต่ 7-11 เขาก็ไม่มาร้านเราอยู่ดี อีกอย่างหนึ่งคือตอนนี้คนทั่วโลกหันมาซื้อของออนไลน์มากขึ้น เพราะมีราคาถูกมาก ซึ่งร้านค้าออนไลน์อาจเป็นคู่แข่งที่เรามองไม่เห็นก็ได้ครับ
3.ทำเล
เลือกทำเลที่เหมาะกับสินค้า และธุรกิจนั้นๆ ถ้าทำเลที่ตั้งไม่ถูกต้องแล้วถึงแม้สินค้าเราจะดีแค่ไหน แต่ในที่นั้นไม่มีใครต้องการใช้มัน สินค้าของเราก็ขายไม่ได้
4.ความน่าเชื่อถือ
บางธุรกิจต้องใช้ความเชื่อถือที่สูงมาก อย่างเช่น สินค้าไอทีตัวใหม่ แต่แบรนด์ยังไม่มีคนรู้จัก คนซื้อเครื่องมาก็กลัวเครื่องจะเสียง่าย ต้องจ้างนักวิจารณ์ที่มีชื่อเสียง และนักการตลาดที่เก่งในด้านนั้นๆมาทำ (ต้องเก่งจริงและมีผลงานให้เราเห็นได้ชัด ไม่ใช่สร้างภาพลักษณ์ว่าเก่ง แต่ผลงานไม่ดี) หากวิจารณ์เอง ทำการตลาดเอง ส่วนใหญ่ไม่รอด
5.เงินทุน
หากไม่มีเงินทุน หรือเงินทุนเริ่มไม่พอ ต้องใช้นายทุน ธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงิน เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินกิจการ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจาการลงทุนอย่างคุ้มค่า เงินทุนมีความสำคัญต่อธุรกิจ เพราะเป็นปัจจัยในการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่เริ่มตั้งกิจการ และระหว่างดำเนินกิจการ เงินทุนทำให้การผลิต การซื้อขายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทำให้ธุรกิจขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว
6.มีตัวเลือกของสินค้า
อย่างเมนูร้านอาหาร ถ้าร้านนี้มีเมนู 20 รายการ กับอีกร้านมีเมนู 2 รายการ คิดว่าร้านไหนคนเยอะกว่า คงตอบได้ง่ายๆ ว่าร้านแรกคะ เพราะลูกค้ามากินแบบเปลี่ยนเมนูไปเรื่อยๆ ดูไม่น่าเบื่อจนเกินไปคะ
7.ความศรัทธา
ความศรัทธาในสินค้าเป็นปัญหาในระยะยาวของทุกบริษัท บริษัทส่วนใหญ่จะล้มหายตายจากไปทุกๆ 5 และ 10 ปี เพราะขาดเรื่องนี้ ลูกค้าที่นับถือแบรนด์ที่เราก่อตั้งจะคงบอกต่อและยกย่องความดีในสิ่งที่เราทำไว้กับสินค้าของเราคะ ตัวอย่างเช่นมือถือเจ้าหนึ่งการตลาดดีมาก สินค้าขายดีมากในช่วงแรก แต่กลับใช้ซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์เกรดต่ำหรือล้าสมัย เครื่องค้างหรือเสียง่าย วัสดุของตัวเครื่องเป็นพลาสติกเกรดต่ำแบบที่ใช้ในขันน้ำ ลูกค้าที่ใช้สินค้าของเจ้านี้ไปได้สักพักเมื่อเจอแบบนี้ เขาจะรู้สึกเกลียดยี่ห้อนี้ไปเลย เพราะมันไม่ดีเหมือนคำที่โฆษณา และเขาจะไม่ซื้อมือถือของเจ้านี้อีกแล้ว แต่จะไปซื้อมือถือของอีกเจ้าที่ใช้สินค้าคุณภาพดีกว่าแทนแม้ราคาจะแพงกว่า จำไว้คะว่า “ลูกค้าทุกคนมีความคิดและมีหัวใจครับ เขาจะรักคุณต่อเมื่อคุณรักเขาเท่านั้น”
รับสิทธิพิเศษเมื่อสั่งสินค้าทางไลน์ จำนวนจำกัด รีบๆ กันหน่อยน่ะค่ะ