วิตามิน A กินเพื่อรักษารอยสิวได้ไหม?
รอยสิว นับเป็นปัญหาที่หลายคนพยายามหาทางทำทุกวิธีเพื่อให้หายไปจากใบหน้า ซึ่งก็มีหลายวิธี การใช้วิตามินเอช่วยนับว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีเพื่อรักษารอยสิว และลดการกำเริบของสิวได้
ในบรรดาตำรับยารักษาสิวที่ใช้กันอยู่ วงการแพทย์ให้น้ำหนักกับวิตามินเอมากที่สุด จากงานวิจัยในระยะแรกพบว่าคนที่เป็นสิวส่วนใหญ่จะหายดีด้วยการใช้วิตามินเอ ในขนาดที่สูงมาก คือ 300,000-500,000 หน่วยสากล แต่ด้วยขนาดที่สูงมากเช่นนี้ ย่อมเกิดอันตรายด้วยเช่นกัน เพราะวิตามินเอจะถูกเก็บสะสมไว้ที่ตับ หากรับประทานต่อเนื่อง
ข้อควรระวังคือ คุณไม่ควรหาซื้อวิตามินเอมารับประทานเองในขนาดที่สูงเกิน 10,000 หน่วยสากล เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ในขนาดต่ำกว่าที่กล่าวมาจะค่อนข้างปลอดภัย แต่ฤทธิ์ในการรักษาก็ลดลงด้วยเช่นกัน ปัญหานี้สามารถแก้ได้บางส่วน หากจ่ายวิตามินเอร่วมกับวิตามินอี
แนวทางการใช้วิตามินเอ เพื่อรักษาสิวหรือรอยสิว คือวิตามินเอ วันละ 100,000 หน่วยสากล ทานร่วมกับวิตามินอีวันละ 800 หน่วยสากล และควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ และเพื่อป้องกันพิษจากวิตามินเอ เมื่อเห็นว่าอาการสิวค่อย ๆ ทุเลาลงแล้ว ให้คุณทำการลดวิตามินทั้งสองชนิดลงเป็นลำดับ จนเหลือขนาดที่เพียงพอไม่ทำให้อาการกำเริบอีก คำเตือน ไม่ควรใช้วิตามินเอชนิดรับประทานนานเกิน 4 เดือน
ปรึกษาปัญหาผิวหน้าฟรี แอดไลน์มาสอบถามได้เลยคะ
