เมื่อปีที่แล้วทางสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ชี้ว่า ภายในปี 2020 ทักษะในการเจรจาต่อรองจะกลายเป็น 1 ใน 10 ของสุดยอดทักษะ ที่จะช่วยนำพาคุณไปสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ แต่อย่างไรก็อย่านิ่งนอนใจแล้วรอให้ถึงปี 2019 ก่อนแล้วค่อยเริ่มพัฒนาเอง เพราะปัจจุบันนี่แหละคือเวลาอันเหมาะสมที่คุณจะเริ่มฝึกฝนทักษะนี้กันได้แล้ว!
เอาล่ะ! เรามาเริ่มกันเลยกับ 5 กลยุทธ์สำคัญที่ยอดนักเจรจาต่อรองทุกคนรู้กันเป็นอย่างดี
1. จำไว้เสมอว่ามูลค่าของการตั้งคำถามนั้น ย่อมคุ้มค่ากว่าการไม่พูดอะไรเลย
การพูดคุยต่อรองกับคนที่เหนือกว่าอาจทำให้คุณหวั่นวิตก แต่ผลที่ได้มักจะคุ้มค่าเสมอ ดังคำกล่าวอันโด่งดังของ Wayn Gretzky ที่ว่า “หากคุณไม่ยอมพูด คุณก็ได้สูญเสียโอกาสที่มีไปหมดแล้ว” เพราะว่าหากคุณไม่ออกปากเจรจาเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเรื่องของการขึ้นเงินเดือน เพิ่มวันหยุดพักผ่อน หรืองานที่ดีขึ้นกว่าเดิม ก็คงไม่มีใครมาถามแทนคุณได้หรอก เพราะฉะนั้น จงพูดความต้องการของตัวเองออกไปเลย!
2. จงสร้างข้อเสนอที่อีกฝ่ายสามารถยอมรับได้
พูดง่ายๆ ก็คือ ‘จงมีเหตุผล’ นั่นเอง แม้ว่าการขอมากกว่าที่คาดหวังจะเป็นเรื่องฉลาดแต่ก็อย่าขออะไรที่มากเกินจริง อาจขอเพิ่มเงินเดือนภายในวงเงินที่บริษัทสามารถให้ได้ ขอวันหยุดพักผ่อนในปริมาณพอเหมาะ แต่อย่าให้ถึงขั้นกับลางานไปแบ็คแพ็คท่องเที่ยวเป็นเดือนๆ ดังนั้นแล้ว จงคาดหวังไว้ให้สูงแต่ก็ไม่ควรเกินขอบเขตของความเป็นไปได้
3. จงรู้ให้ลึก เกี่ยวกับคุณสมบัติของงานที่กำลังต้องการ
การเจรจาขอเพิ่มผลตอบแทนย่อมหมายถึงภาระงานที่มากขึ้นเป็นเงาตามตัว คุณจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความรับผิดชอบใหม่ๆ ที่เข้ามา คุณควรรู้จักขีดความสามารถในการทำงานของตัวเองให้เหมือนกับที่รู้ว่าบริษัทสามารถให้อะไรคุณได้บ้าง ใครๆ ก็อยากได้เงินเดือนหรือตำแหน่งที่สูงขึ้นทั้งนั้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีคุณสมบัติที่ดีพอ ดังนั้น ถ้าคุณไม่สามารถทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงได้ล่ะก็ มันย่อมเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของตัวเองลง และทำให้การเจรจาครั้งต่อๆ ไปนั้นยากยิ่งขึ้น
4. มุ่งมั่นให้เต็มที่ เพื่อตัวคุณเองและเหล่าทีมงาน
การเจรจาต่อรองก็คือการทำการตกลงหาสิ่งที่ต้องการร่วมกัน แต่ปัจจัยหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ อีกฝ่ายควรจะมีแนวคิดเป็นไปในทางเดียวกับคุณด้วย เป้าหมายสูงสุดของคุณคือผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ คุณอาจสร้างข้อเสนอที่คุณต้องการได้มากมาย แต่…คุณก็ต้องพร้อมรับฟังข้อเสนอของผู้อื่นด้วย เพราะถ้าอีกฝ่ายไม่พอใจกับการเจรจานี้ขึ้นมา อาจกลับกลายเป็นว่า พวกเขาจะไม่ยอมทำข้อตกลงอะไรกับคุณเลยก็เป็นได้ และทำให้คุณเสียโอกาสครั้งนี้ไปฟรีๆ
5. คุณสามารถเจรจาต่อรองได้ทุกเรื่อง ทั้งด้านการใช้ชีวิตและการทำงาน
คุณอาจจะคิดว่าการเจรจานั้นเป็นทักษะที่ได้ใช้ในที่ทำงานเท่านั้น แต่จริงๆแล้ว มันเป็นทักษะที่คุณได้ใช้มาตลอดชีวิตตั้งแต่เด็กจนโตเลยทีเดียว ในตอนเด็กๆ คุณอาจเคยต่อรองกับพ่อแม่เรื่องการขอขนมหวานเพิ่มอีกหนึ่งชิ้น หรือขอเวลาเข้านอนที่ช้ากว่าเดิมสักหนึ่งชั่วโมง พอโตขึ้นมาหน่อย คุณก็อาจเคยต่อรองกับรูมเมทเรื่องกฏการอยู่ร่วมกันในช่วงมหาวิทยาลัย พอช่วงแต่งงาน คุณก็ต้องต่อรองกับสามี/ภรรยาของคุณแทบจะทุกๆ เรื่องของชีวิตคู่ด้วยซ้ำไป มากไปกว่านั้น คุณยังจะต้องต่อรองกับลูกๆ ให้เขายอมไปโรงเรียน อ่านหนังสือ หรือเข้านอนตรงตามเวลาอีกด้วย
เพราะฉะนั้นแล้ว ชีวิตจริงนี่แหละ! ที่จะช่วยทำให้คุณได้ฝึกฝนทักษะการเจรจาต่อรองนี้ไปใช้ในการทำงานได้ ไม่แน่นะว่า…คุณอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการเจรจาอยู่แล้ว แต่คุณไม่รู้ตัวก็เป็นได้
ขอบคุณที่มา : www.sumrej.com