เมื่อคืนนอนน้อยเหรอ ขอบตาดำเป็นหมีแพนด้าเลย หรือร้องให้มา อกหักรึปล่าว ฯลฯ สารพันคำถามเมื่อขอบตาคุณดำ
คนโดนทักอาจตกใจแค่กลัวไม่สวย แต่..สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นซ่อนอยู่
จริงๆแล้วของขอบตาดำ เกิดจากหลายๆสาเหตุเช่นความเครียด กรรมพันธุ์ โรคภูมิแพ้ วัยที่เพิ่มขึ้น ขาดการบำรุง หรือลึกกว่านั้นคือคุณอาจจะกำลังไตเสื่อม!! เริ่มน่ากลัวขึ้นแล้วใช่ไม๊คะ ใช่ค่ะควรกลัว เพราะการที่อาการแสดงออกมาให้เห็นภายนอกแสดงว่าภายในนั้นแย่แล้ว ควรรีบพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุด่วน
สาเหตุสถานเบาที่สุดที่ทำให้ขอบตาคล้ำคือขาดการบำรุง เพราะไม่ได้มีผลเสียมาจากอวัยวะภายใน
ถ้าเหตุเกิดจากกรรมพันธุ์ก็ยังไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าบรรพบุรุษของเราที่ขอบตาคล้ำนั้นเป็นโรคอะไรหรือไม่
หรือเป็นเพราะวัยที่เพิ่มขึ้นก็อาจเป็นไปได้เพราะเมื่อเกิดความเหี่ยวย่นรอบดวงตา ทำให้เม็ดสีไปรวมตัวกันอยู่ในส่วนที่ผิวหนังรอบดวงตาเป็นเส้นพับหัก เมื่อมองดูรวมๆแล้วทำให้เห็นเป็นสีดีชัดเจน
หากเกิดจากภูมิแพ้ก็ไม่ต้องตกใจ แค่รักษาภูมิแพ้ให้หายอาการขอบตาคล้ำก็น่าจะหายไปด้วย
ส่วนจะเกี่ยวข้องกับอาการไตเสื่อหรือไม่ก็ต้องดูว่า นอกจากขอบตาดำแล้วมีอาการอื่นๆร่วมด้วยหรือไม่ เช่น นอนไม่ค่อยหลับหรือหลับไม่สนิท ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและขาดความกระตือรือร้น ง่วงนอนตอนกลางวัน ปวดปัสสาวะบ่อย ปวดตามตัว เป็นตะคริว ซึมเศร้า วิตกกังวล และสิ่งที่สังเกตจากภายนอกง่ายที่สุดคือสิ่งที่เห็นด้วยตาคือนอกจากจะขอบตาดำคล้ำแล้วยังมีผมหงอกก่อนวัยและผมร่วงมากกว่าปกติด้วยหรือไม่
ความผิดปกติของดวงตาเกี่ยวข้องกับตับและไต ตับเป็นที่สะสมเลือด ไตเป็นที่สะสมสารอาหารและกำจัดของเสีย ถ้าเราดูแลไตโดยการเลือกอาหารที่ดีเป็นมิตรต่อไตอาการเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น อาหารที่เราชอบกับอาหารที่ไตและเซลล์ของเราชอบไม่เหมือนกัน
เช่นเราชอบกินเค็ม มัน หวาน อาหารรสจัด แซ่บถึงใจ แต่ไตไม่เอาด้วย ของพวกนี้ไตจะกำจัดทิ้งหมด และถ้าในแต่ละวันเราทานมากเกินไปและต่อเนื่องยาวนาน ไตก็จะเริ่มทำงานหนักขึ้นและในที่สุดก็เสื่อมลงไปเรื่อยๆ ข่าวดีคือ ถ้าคุณอายุน้อยยังกลับตัวได้ทัน ปรับพฤติกรรมการกินใหม่ ถึงแม้จะถึงขั้นขอบตาดำจนเห็นได้ชัดแล้วก็ตาม เพราะร่างกายของคนเรามีการผลัดเปลี่ยนเซลล์ตลอดเวลาเซลล์เก่าตาย สร้างเซลล์ใหม่ และเปลี่ยนทั้งหมดใช้เวลา 9 เดือน
แต่ถ้าคุณอายุมากเป็นผู้สูงวัยแล้วก็อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะร่างกายเราฉลาดเพียงแต่ปรับพฤติกรรมการกินให้ได้จริงๆ เลือกแต่อาหารที่เซลล์ต้องการ อาการก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากจะต้องปรับเรื่องอาหารแล้ว เรายังต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เลือกวิธีออกกำลังกายที่ช่วยปรับสมดุล เช่น โยคะ แอโรบิคบาๆ ว่ายน้ำ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก็จะช่วยให้ร่างกายเราฟื้นตัวเร็วขึ้น ถ้านอนไม่หลับก็ลองสวดมนต์นั่งสมาธิก่อนนอน แล้วสั่งจิตตัวเองไปด้วยว่าจะต้องหลับสนิท ฟังดูเหมือนต้องใช้สิ่งลึกลับช่วยใช่ไม๊คะ แต่มันเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่ผ่านการทดลองและได้ผลกันเป็นอย่างดี ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าย น่าจะคุ้นวลีนี้กันดี
ขึ้นอยู่กับเราแล้วว่า เมื่อรู้จักตัวเองแล้วจะยินดีดูแลรักษาตัวเองอย่างดีหรือไม่!!
ปรึกษาปัญหาผิวหน้าฟรี แอดไลน์มาสอบถามได้เลยคะ
