สำหรับคนที่สนใจอยากมีรายได้จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง สมัครเป็นตัวแทนแบบไหนดี จึงจะเหมาะกับตัวเรา เพราะบางคนทำงานประจำ มีเวลาน้อย ไม่สะดวกไปส่งของเอง แต่อยากมีรายได้เสริม หรือต้องการจะทำเป็นอาชีพหลัก วันนี้จึงเอาข้อมูลการเป็นตัวแทนในแบบต่างๆมานำเสนอเพื่อให้หลายๆคนได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
1 ตัวแทนแบบสต็อกสินค้า
คือ การสมัครเป็นตัวแทนด้วยการเปิดบิลตามเรทราคาที่เจ้าของแบรนด์กำหนด ก็จะได้สินค้าในราคาตัวแทนไปจำหน่าย ซึ่งตัวแทนแบบสต็อกสินค้า มีข้อดี คือ ยิ่งตัวแทนสต็อกเยอะเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้ราคาถูกลงเท่านั้น ถ้าขายได้มากก็จะได้กำไรมากและสามารถอัพตัวเองเป็นดีลเลอร์เพื่อจะได้เรทต่ำสุด ถ้าใครขายเก่งๆ ควรเลือกเป็นตัวแทนแบบสต็อกสินค้าจะดีที่สุดเพราะจะทำให้ได้กำไรมากกว่า
2 ตัวแทนแบบไม่สต็อกสินค้า
คือ ตัวแทนที่ไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อเปิดบิลเอาสินค้าจริงไปขาย (บางแบรนด์อาจจะมีค่าสมัคร) สามารถนำรูปสินค้าไปโฆษณาขายตามช่องทางต่างๆได้ เมื่อมีลูกค้ามาสั่งซื้อ ค่อยมาแจ้งสั่งซื้อกับเจ้าของแบรนด์อีกทีหนึ่ง ซึ่งเจ้าของแบรนด์จะเป็นคนจัดส่งในนามตัวแทน ซึ่งตัวแทนไม่ต้องเสียเวลาไปส่งของเอง แต่กำไรของตัวแทนแบบไม่สต็อกจะน้อยกว่าตัวแทนแบบสต็อกพอสมควร เช่น ราคาสินค้าขายปลีกอยู่ที่ 250 บาท เรทราคาตัวแทนแบบสต็อก จะได้อยู่ที่ 150 บาท ส่วนตัวแทนไม่สต็อกอาจจะอยู่ที่ 200 บาท การเป็นตัวแทนแบบไม่สต็อกจึงเหมาะกับคนที่ไม่มีทุนแต่อยากขายสินค้า
3 แบบพรีออเดอร์
คือ การสมัครเป็นตัวแทนกับร้านที่เป็นแหล่งผลิต หรือนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งตัวแทนแบบนี้จะต้องไปรวบรวมออเดอร์จากลูกค้ามาก่อน โดยลูกค้าจะต้องจ่ายค่ามัดจำหรือจ่ายเต็มจำนวนก่อน ตัวแทนจึงค่อยไปสั่งผลิตหรือสั่งนำเข้า ซึ่งการพรีออเดอร์จะต้องใช้เวลาพอสมควร อาจจะเป็นเดือนกว่าจะได้สินค้า ตัวแทนจึงควรนับวันวันผลิตหรือวันนำเข้าให้ชัดเจนที่สุด เพื่อจะได้ไม่เสียเครดิตในการจัดส่งสินค้า ข้อดีคือ ส่วนมากจะเป็นสินค้าที่ไม่มีขายตามท้องตลาดต้องสั่งผลิตหรือนำเข้าเท่านั้น จึงเป็นที่ต้องการของลูกค้า
4 บริการจัดซื้อแทน เป็นตัวแทนแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมคือ การเข้าไปติดต่อโรงงาน แหล่งผลิต ร้านค้าส่ง เพื่อขอถ่ายรูปสินค้าจริงแล้วนำไปประกาศขาย มีลูกค้าแล้วค่อยมาซื้อ ได้กำไรจากการได้ค่าบริการในการจัดซื้อแทน หรือถ้าอยากได้กำไรเยอะก็เลือกสินค้าที่กำลังลดราคามาขายในราคาปกติเพื่อให้ได้กำไรส่วนต่างมาขึ้น ก็ถือว่าเหมาะมากสำหรับคนที่อยู่ใกล้แหล่งสินค้าที่สามารถเข้าไปเลือกดูสินค้าจริงๆ เพราะคนทุกวันนี้ไม่ค่อยมีเวลาออกไปซื้อของเอง บริการจัดซื้อแทนจึงเริ่มมีคนทำให้เห็นมากขึ้น
เป็นไงบ้างคะสำหรับตัวแทน 4 แบบที่เอามาฝากวันนี้ คงพอทำให้รู้ว่าการเป็นตัวแทนแบบไหนที่เหมาะกับเรามากที่สุด ทีนี้ก็สามารถสร้างรายได้จาการเป็นตัวแทนจำหน่ายโดยไม่กระทบงานประจำ หรือสร้างรายได้ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากที่สุด